ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด

ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด- ใครเชิด ใครชู ช่างเขา- ใครด่า ใครบ่น ทนเอา- ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556

อสุภะดูเพื่อเตือนสติ คนเราก็เท่านี้ละ

อสุภะดูเตือนสติ คนเราก็เท่านี้ละ บุญกุศลที่ได้นีขออุทิศให้ เจ้าของร้างกายในรูปทุกท่าน

บ้านที่แท้จริง

บ้านที่แท้จริง
 เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง

ให้เสียงโดย ธรรมสภา

บทปลงสังขาร (มนุษย์เราเอย)



มนุษย์เราเอย     เกิดมาทำไม     นิพพานมีสุข
อยู่ใยมิไป     ตัณหาหน่วงหนัก     หน่วงชักหน่วงไว้
ฉันไปมิได้     ตัณหาผูกพัน     ห่วงนั้นพันผูก
ห่วงลูกห่วงหลาน     ห่วงทรัพย์สินศฤงคาร     จงสละเสียเถิด
จะได้ไปนิพพาน     ข้ามพ้นภพสาม     ยามหนุ่มสาวน้อย
หน้าตาแช่มช้อย     งามแล้วทุกประการ     แก่เฒ่าหนังยาน
แต่ล้วนเครื่องเหม็น     เอ็นใหญ่เก้าร้อย     เอ็นน้อยเก้าพัน
มันมาทำเข็ญใจ     ให้ร้อนให้เย็น     เมื่อยขบทั้งตัว
ขนคิ้วก็ขาว     นัยน์ตาก็มัว     เส้นผมบนหัว
ดำแล้วกลับหงอก     หน้าตาเว้าวอก     ดูหน้าบัดสี
จะลุกก็โอย     จะนั่งก็โอย     เหมือนดอกไม้โรย
ไม่มีเกสร     จะเข้าที่นอน     พึงสอนภาวนา
พระอนิจจัง     พระอนัตตา     เราท่านเกิดมา
รังแต่จะตาย     ผู้ดีเข็ญใจ     ก็ตายเหมือนกัน
เงินทองทั้งนั้น     มิติดตัวเรา     ตายไปเป็นผี
ลูกเมียผัวรัก     เขาชักหน้าหนี     เขาเหม็นซากผี
เปื่อยเน่าพุพอง     หมู่ญาติพี่น้อง     เขาหามเอาไป
เขาวางลงไว้     เขานั่งร้องไห้     แล้วกลับคืนมา
อยู่แต่ผู้เดียว     ป่าไม้ชายเขียว     เหลียวไม่เห็นใคร
เห็นแต่ฝูงแร้ง     เห็นแต่ฝูงกา     เห็นแต่ฝูงหมา
ยื้อแย่งกันกิน     ดูน่าสมเพช     กระดูกกูเอ๋ย
เรี่ยรายแผ่นดิน     แร้งกาหมากิน     เอาเป็นอาหาร
เที่ยงคืนสงัด     ตื่นขึ้นมินาน     ไม่เห็นลูกหลาน
พี่น้องเผ่าพันธุ์     เห็นแต่นกเค้า     จับเจ่าเรียงกัน
เห็นแต่นกแสก     ร้องแรกแหกขวัญ     เห็นแต่ฝูงผี
ร้องไห้หากัน     มนุษย์เราเอ๋ย     อย่าหลงกันเลย
ไม่มีแก่นสาร     อุตส่าห์ทำบุญ     ค้ำจุนเอาไว้
จะได้ไปสวรรค์     จะได้ทันพระเจ้า     จะได้เข้าพระนิพพาน
อะหัง  วันทามิ  สัพพะโส  อะหัง  วันทามิ  นิพพานะปัจจะโย  โหตุ ฯ

ใครจะชอบใครชังช่างเขาเถิด


ใครจะชอบใครชังช่างเขาเถิด   ใครจะเชิดใครแช่งก็ช่างเขา
ใครจะด่าว่าบนก็ทนเอา   ใครจะเมามากมายไม่หมายมอง

ชอบ ก็ช่างเขาไงเราไกลหนี   ชอบก็ดีวางไว้ไม่ฉลอง
ชอบไม่เห็นไม่รู้ดูดั่งทอง   ชอบไม่ต้องเกี่ยวแวะนั่นแหละดี

ใครรักเราเรารู้อยู่ว่ารัก   ใครไม่ทักรักใคร่ก็ไปหนี
ใครสรรเสริญเยินยอก็พอที   ใครราวีคิดร้ายไม่หมายสู้

ชังก็ช่างไม่อีนังไปขังขอบ    ชังเกินชอบตอบช่างวางไว้หู
ชังหนังหน้าไม่เห็นเช่นไม่ดู   ชังก็อยู่แค่ชังไม่ฟังเขา

ช่างเขาเถิดถ้าเขาไม่เข้าจิต   ช่างเขาเถิดไม่คิดให้มันเศร้า
ช่างเขาเถิดใจเขามิใช่เรา   ช่างเขาเถิดไม่เอาเขามาคิด

เถิดขอร้องอย่ามองเขาเศร้าสร้อย   เถิดอย่าคอยขุ่นแค้นแสนหงุดหงิด
เถิดอย่าเห็นคนอื่นตื่นสัมฤทธิ์    เถิดอย่าติดใจเขาเฝ้าใจตน

“”””ใครดีมา ดีไป ได้ทั้งนั้น   ใครเดียดฉันไม่ดูรู้ไม่สน
ใครรักนิดคิดตอบมอบกมล   ใครจะบ่นคนนั้นฉันไม่รู้

เชิดมาใส่ใครอ้างก็ช่างเขา   เชิดจะเอาไม่เห็นเป็นอดสู
เชิดจะจริงนิ่งเฉยไม่เงยดู   เชิดคอชูอยู่ไหนก็ไม่ว่า

ใครนินทาว่าใครก็ไม่เห็น
ใครดีเด่นเกินใครไม่ถือสา
ใครรักใครเกลียดใครไม่นินทา

แช่ง ช่างเขาเราไม่เห็นต้องรู้   แช่ง ก็อยู่ช่างแช่งไม่แขว่งแขน
แช่ง จะผุดขุดชักไม่หนักแทน   แช่ง ก็แสนไม่เห็นจะเป็นไร

ช่าง เขาเกิดถ้าเกิดเขาไม่เข้าท่า  ช่าง เขาเถิดเมินหน้าไม่กล้าใกล้
ช่าง เขาเถิดปล่อยเขาเราทำใจ    ช่าง เขาเถิดหยุดไปใส่ใจติด

เขา จะพูดแบบไหนก็ไม่ว่า   เขา จะด่าแบบไหนก็ไม่คิด
เขา จะบ่นบ่นไปไม่หงุดหงิด    เขา มีสิทธิ์ส่วนเขาเรามองเมิน

เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา  จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู   ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย

จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว  อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเลย   ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง

...พุทธทาส ภิกขุ ...

วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

สอนกรรมฐานสำหรับครอบครัว



สอนกรรมฐานสำหรับครอบครัว

พระภิกษุรับเงินทอง


 พระภิกษุรับเงินทอง  หรือสิ่งที่ใช้แทนเงินทอง เช่น ตั๋วแลกเงิน เช็ค เป็นต้น   ไม่ได้

    จะใช้ให้คนอื่นรับแทน หรือ แม้ยินดีที่เขาเก็บไว้เพื่อตนเป็นอาบัตินิสสัคคียปาจิตตีย์

    เมื่อพระภิกษุเป็นอาบัตินิสสัคคียปาจิตตีย์         ต้องสละเงินก่อนจึงจะปลงอาบัติได้

    คฤหัสถ์ไม่ควรถวายเงิน    เพราะทำให้ท่านต้องอาบัติและเป็นการไม่เคารพพระวินัย

    ด้วย


อสุภะกรรมฐาน หลวงปู่สมชาย


อสุภะกรรมฐานหลวงปู่สมชาย